'สุ่มปลายักษ์' ทีเด็ด 'สองพี่น้อง' แลนด์มาร์กแห่งใหม่ใน 'สุพรรณบุรี'
บนลำน้ำ ‘คลองสองพี่น้อง’ ที่แต่เดิมชาวบ้านในท้องถิ่น ส่วนใหญ่ อาศัยอาชีพเกษตรกร หรือหาปลา ในการเลี้ยงชีพ ได้เกิดความร่วมมือร่วมใจกันจนสร้าง ‘สุ่มปลายักษ์’ แลนด์มาร์กแห่งใหม่ และกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก
‘สุ่มปลา’ เป็นอุปกรณ์ที่ชาวบ้านในอำเภอสองพี่น้องใช้หาปลา และเรียกได้ว่า ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ลำคลอง จะมีติดกันเอาไว้ใช้กันเกือบทุกบ้าน ซึ่งกลายมาเป็นต้นแบบของ ‘สุ่มปลายักษ์’ สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ในจังหวัดสุพรรณบุรี ที่กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว โดยสุ่มปลายักษ์นี้ เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของชาวบ้านในท้องที่ ที่ช่วยกันสร้างสุ่มปลายักษ์ไม้ไผ่ขนาดใหญ่นี้ขึ้นมา โดยใช้ลำไม้ไผ่ ซึ่งเป็นพืชที่หาได้ง่ายในชุมชนกว่า 5,000 ชิ้น เป็นจุดชุมวิวสูงแบบ 360 องศา
ทีเด็ดสองพี่น้อง !!
สะพานทางเดินที่ทอดยาวเป็นสะพานโค้ง ทำจากไม้ไผ่ เชื่อมกับวัดทองประดิษฐ์ ตัดผ่านทุ่งผักบุ้งที่เรียงรายอยู่สองข้างทาง ไปยังสุ่มปลายักษ์เป็นที่มาของชื่อ ‘ตลาดน้ำสะพานโค้ง’ ที่ตั้งอยู่ติดกับสุ่มปลายักษ์ ซึ่งเกิดจากความสามัคคีของคนในชุมชม ที่พายเรือนำอาหาร เครื่องดื่ม และขนมมาขายเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมสุ่มปลายักษ์ โดยส่วนใหญ่ อาหารที่ขายจะเป็นอาหารที่ทำมาจากพืชผลในชุมชน ซึ่งชาวบ้านปลูกเอง อาทิ ข้าวโพดปิ้ง กุ้งย่าง ส้มตำ ซาลาเปา ที่ขายในราคาย่อมเยา โดยมีส้มตำขายกันที่ครกละ 20 บาท ก๋วยเตี๋ยวชามละ 25 บาท และซาลาเปาลูกใหญ่ ราคาลูกละ 15 บาทเท่านั้น
ทั้งนี้สิ่งที่ทำให้สุ่มปลายักษ์ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว นอกจากมีตลาดน้ำ และอาหารที่น่ารับประทานหลายอย่าง เป็นจุดดึงดูดแล้ว ยังมีมุมเด็ด ๆ ที่สวยงาม ให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพเก็บเป็นที่ระลึกหลายมุม ทั้งบนสะพานไม้ไผ่กลางทุ่ง และด้านบนปากสุ่มที่สามารถชมวิวของอำเภอสองพี่น้องได้แบบสุดลูกหูลูกตา
แม้ในตอนเริ่มแรก ‘สุ่มปลายักษ์’ จะเงียบเหงา และมีเพียงชาวบ้านในท้องที่ จำนวนเล็กน้อยเท่านั้นที่เดินทางมาท่องเที่ยว ชมวิวและยังมีร้านค้าในเรือเพียงไม่กี่ร้าน ที่พายเรือมาจอดขายของ แต่เมื่อ 1 เสียง แชร์เรื่องราวของสุ่มปลายักษ์ลงบนสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งทางกลุ่มเฟซบุ๊ก มีการแชร์ต่อ ไปจนถึงการบอกต่อแบบปากต่อปาก ทำให้มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาที่สุ่มปลายักษ์เพิ่มมากขึ้นจากเดิมหลายเท่าตัว
จนถึงวันนี้ บริเวณรอบข้างของสุ่มปลายักษ์มีความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีมากขึ้น หลังจากมีนักท่องเที่ยวตามรอยจากการแชร์ผ่านสื่อโซเชียล ทำให้มีร้านค้าในเรือเพิ่มมากขึ้นมากกว่า 10 ร้าน มีการสร้างป้ายชื่อสถานที่ที่ดูสวยงาม เพิ่มเติมศาลาไม้ไผ่ให้นักท่องเที่ยวสามารถนั่งพักผ่อน จากเดิมที่นักท่องเที่ยวต้องนั่งกับพื้นของสุ่ม
พร้อมมีบริการ ‘เรือพายโบราณ’ ให้นั่งเรือเที่ยวชมทุ่ง ทั้งยังมีฝีพายใส่ชุดไทยคล้ายฝีพายโบราณพาชมคลองสองพี่น้อง ชมวิถีชีวิตชาวบ้าน และธรรมชาติ โดยคิดค่าบริการเพียงเที่ยวละ 100 บาท ทั้งยังอยู่ในระหว่างก่อสร้างสะพานเพิ่มเติมให้นักท่องเที่ยวมีพื้นที่ชมทุ่งมากขึ้น
กรรมการสร้าง ‘สุ่มปลายักษ์’ วางอนาคต รุกพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ
ทีมข่าว Mthai ได้มีการพูดคุยกับ นายปราโมทย์ แสงจับจิต ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการสร้างสุ่มยักษ์แห่งนี้ เปิดเผยว่า จุดประสงค์ในการสร้างสุ่มปลายักษ์ขึ้นมา ก็เพื่อให้เป็นศูนย์การท่องเที่ยวของอำเภอสองพี่น้อง ชาวบ้านจะมีรายได้ ในอนาคตจะมีการปลูกดอกบัว ให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินลงไปเก็บได้ โดยหลังจากที่สร้างสุ่มยักษ์ขึ้น ก็มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวนับพันคน ทั้งยังมีทัวร์จากต่างประเทศเดินทางมาเที่ยวิีกมากมาย
นอกจากนี้นายปราโมทย์ยังเผยด้วยว่า สุ่มยักษ์สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมากต่อชุมชน เนื่องจากเดิมทีที่ตนเคยปลูกกล้วยขายเป็นอาชีพ แต่ก็ขายไม่ดี แต่เมื่อมีสุ่มยักษ์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้น ตนก็นำเอากล้วยที่ปลูกเองมาทำเป็นกล้วยทอดขาย สร้างรายได้เป็นอย่างดี ซึ่งสินค้าที่นำมาขายส่วนใหญ่ล้วนเป็นสินค้าจากชุมชนทั้งสิ้น
วันเวลา เปิด-ปิด และการเดินทางมาเที่ยว ‘สุ่มปลายักษ์’
‘สุ่มปลายักษ์’ เปิดให้ท่องเที่ยวในทุก ๆ วัน แต่จะมีร้านค้าในเรือเปิดขายมากเป็นพิเศษในช่วงวันเสาร์อาทิตย์ ส่วนในวันจันทร์ถึงศุกร์ จะมีร้านค้าขายเช่นกัน แต่จะเบาบางกว่าในช่วงวันหยุด
ส่วนการเดินทางมาที่ ‘สุ่มปลายักษ์’ หากเดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัว มาจอดที่วัดทองประดิษฐ์ และเดินข้ามสะพานมาเที่ยวที่สุ่มยักษ์ได้ แต่หากไม่มีรถส่วนตัว สามารถนั่งรถสายกรุงเทพฯ-ตลาดบางลี่ และลงป้ายสุดท้าย ที่ตลาดบางลี่ นั่งจักรยานยนต์รับจ้างหรือเหมารถสามล้อ ไปเที่ยวที่สุ่มยักษ์ได้ โดยให้แจ้งกับคนขับรถรับจ้างว่าไปวัดทองประดิษฐ์ หรือ วัดเล็ก
จากความสามัคคี สู่การกระจายรายได้สู่ชุมชน
อย่างไรก็ตาม ถือได้ว่า ‘สุ่มปลายักษ์’ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ประสบความสำเร็จ จากอิทธิพลของสื่อสังคมออนไลน์ ที่เมื่อมีการแชร์ถึงสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่มีความแปลกใหม่ และมีเอกลักษณ์ ก็สามารถเรียกแขก ชักชวนนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเยี่ยมชมได้เป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ สุ่มยักษ์ หนึ่งในตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยว ที่เกิดขึ้นได้จากความสามัคคีของคนในชุมชน ที่ร่วมมือกันสร้างเป็นจุดเช็คอินนี้ขึ้นมา จนเป็นที่มาของแหล่งรายได้อีกแห่งของชาวบ้านในท้องถิ่น โดยชาวบ้านสามารถการนำสินค้าในท้องที่มาสร้างมูลค่า และกระจายไปสู่นักท่องเที่ยวได้ต่อไปอีกมากมาย.
No comments:
Post a Comment