รวบนักร้องดัง ไหมไทย ใจตะวัน กลางคอนเสิร์ต
ไหมไทย ใจตะวัน
วานนี้ (31 ม.ค.56) เมื่อเวลา 23.40 น. ขณะที่ พ.ต.ท.ช่วงโชติ มงคลธนายุทธ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เข้าเวรทำหน้าที่อยู่นั้น นายประสิทธิ์ ประเสริฐกิตติกุล ผู้รับมอบอำนาจช่วงจาก บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค พับลิชชิ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กับพวกรวม 7 บริษัท ได้เดินทางเข้าแจ้งความ
เนื่องจาก นักร้องลูกทุ่งหมอลำชื่อดัง “ไหมไทย ใจตะวัน” หรือ นายมนต์ชัย รักษาชาติ อายุ 45 ปี หรือ อยู่บ้านเลขที่ 164 หมู่ 10 บ้านหัวแฮด ต.ธัญญา อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ได้นำเพลงที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์มาร้องขึ้นเผยแพร่บนเวทีในคอนเสิร์ต “พระเอกใหญ่ ไหมไทย ใจตะวัน ปะทะ ก้านตอง” ที่จัดขึ้นบริเวณริมถนนพัทยาสาย 3 ตรงข้ามร้านอัมพรซีฟู๊ด ย่านพัทยากลาง หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง
หลังรับแจ้งจึงประสาน พ.ต.ท.พงศ์สวัสดิ์ วงศ์วาน สว.สส.พ.ต.ต.โกวิทย์ สวัสดิ์มงคล สวป. พร้อมกำลังตำรวจ สภ.เมืองพัทยา และตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ชลบุรี ประมาณ 10 นาย เดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงพบว่าคอนเสิร์ตดังกล่าวได้ล้อมรั้วเก็บเงินค่าเข้าชม ในอัตราผู้ใหญ่ 120 บาท เด็ก 50 บาท และชาวต่างชาติจำนวน 150 บาท ส่วนภายในงานมีแฟนเพลงทั้งไทย และต่างชาติมาร่วมชมคอนเสิร์ตประมาณ 1,500 คน ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายมาเล็กน้อยจนทำให้พื้นดินเฉอะแฉะ ในระหว่างนั้น นายมนต์ชัย หรือ “ไหมไทย” กำลังร้องเพลง “ถูกทิ้งที่พัทยา” เป็นเพลงสุดท้ายก่อนที่ลงจากเวที เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ด้านล่างจึงแสดงตัวเข้าจับกุม แต่นายมนต์ชัย กลับเดินหนีไปขึ้นรถบัสประจำวง และพยายามหลบหน้าผู้สื่อข่าวที่ไปรอบันทึกภาพอยู่ ต่อมาตำรวจได้ขึ้นไปเพื่อเจรจาจนกระทั่งนายมนต์ชัย ยอมมอบตัวแต่ขอร้องไม่ให้ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพ เพราะเกรงว่าแฟนเพลงจะแตกตื่น จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวขึ้นรถออกไปทางด้านหลังเวทีมาทำการสอบสวนที่ สภ.เมืองพัทยา
โดยนายมนต์ชัย หรือ “ไหมไทย ใจตะวัน” เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากตนออกจากวงเสียงอีสาน ได้เข้ามาเป็นนักร้องในสังกัดค่าย “แกรมมี่” ประมาณ 6 ปีแล้ว และเพิ่งจะหมดสัญญาในวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นตนก็ได้ตระเวนไปร้องเพลงในคอนเสิร์ตตามจังหวัดต่างๆ กระทั่งทางบริษัท จี-เอ็มเอ็มแกรมมี่ มีหนังสือมาเตือนว่าไม่ให้นำเพลงที่แกรมมี่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ไปร้องเผยแพร่ เนื่องจากทาง “ไหมไทย” หมดสัญญากับทางบริษัทแล้ว และหากจะนำไปร้องก็ต้องไปพูดคุยกันอีกครั้ง แต่ตนไม่มีความรู้เรื่องนี้และไม่มีฝ่ายกฎหมายประจำวง จึงได้นำเพลงมาร้องโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งตนอยากกราบขอโทษและขอขมาผู้บริหารบริษัทฯ และจะขอเข้าพบเพื่อพูดคุยเจรจาไกล่เกลี่ยในเรื่องคดีภายหลัง
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า เบื้องต้นคดีนี้สามารถยอมความกันได้ จึงอนุญาตให้ประกันตัวออกไปในวงเงิน 50,000 บาท ซึ่งหากทั้ง 2 ฝ่ายตกลงกันได้ก็ถือว่าคดีนี้สิ้นสุด
ขอบคุณข้อมูลจาก pattaya dailynews
No comments:
Post a Comment